ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ตของเกาหลีใต้ต้องทำงานกันหนักมากขึ้น หลังพบเวบไซท์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องหรือเข้าข้างฝ่ายเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เกาหลีใต้มีกฏหมายว่าด้วยการป้องกันการเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือนหรือเป็นภัยคุกคาม ที่สามารถที่ใช้จัดการกับเวบไซท์ หรือกิจกรรมต่างๆที่เจ้าหน้าที่ถือว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐได้อย่างเต็มที่
คิม แซง-บุม (Kim Sang-bum) คือหนึ่งในผู้จัดทำเวบไซท์ส่วนตัว หรือ บล็อคเกอร์ จากชุมชนออนไลน์บล็อทเทอร์ Bloter ในเกาหลีใต้ ที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเรียกมาตรการควบคุมที่แสนจะเข้มงวดนี้ว่าเป็นสิ่งเกินกว่าเหตุ
Kim บอกว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปจัดระเบียบชีวิตพลเมืองประเทศให้เข้มงวดขนาดนี้ ..เขามองว่าเกาหลีใต้กำลังจะตกหลุมพรางที่วางไว้อย่างดีจากสื่อชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ ทั้งๆที่เมื่อลองพิจารณาดูแล้วสื่อชวนเชื่อของเกาหลีเหนือก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยฉลาดนัก
อย่างไรก็ตามตัวแทนคณะกรรมมาตรฐานการสื่อสารและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้
จีโอน เคียง-วูง (Jeon Kyoung-woong) อดีตผู้อำนวยการสมาคมสื่ออินเทอร์เน็ตเกาหลี และผู้สื่อข่าวออนไลน์ กลับมองว่า เกาหลีใต้จำเป็นที่ต้องหยุดยั้งการเผยแพร่สื่อชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ เพราะไม่ได้มีหลักประกันว่าสื่อเหล่านั้นจะไม่เป็นพิษภัยกับใคร
อดีตผู้อำนวยการสมาคมสื่ออินเทอร์เน็ตเกาหลี เปิดเผยข้อมูลว่าที่มาเวบไซท์เหล่านี้มีการขับเคลื่อนอยู่ในเกาหลีใต้เพื่อสนับสนุนรัฐบาลทหารเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มสายลับของเกาหลีเหนือ ดังนั้นเกาหลีใต้จึงต้องมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมเนื้อหาเหล่านั้นบนอินเทอร์เน็ต
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเกาหลีใต้ต้องลงทะเบียนในเวบไซท์ต่างๆด้วยชื่อจริง นอกจากนี้ในเวบไซท์ยอดนิยมส่วนใหญ่ ผู้ที่จะเขียนความคิดเห็นของตัวเองได้จำเป็นต้องลงทะเบียนการด้วยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
คุณจีโอน ย้ำว่า สิ่งเหล่านี้บอกถึงท่าทีของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดปัจจุบันที่อ่อนไหวอย่างมากต่อการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองบนอินเทอร์เน็ต / และคิดว่าสภาพการณ์ย่ำแย่ลงเรื่อยๆนับตั้งแต่รัฐบาลเกาหลีใต้ชุดนี้ขึ้นครองอำนาจ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด คุณจีโอนบอกว่า หน่วยงานที่เรียกว่าตำรวจไซเบอร์ของเกาหลีใต้ซึ่งจัดตั้งมาแล้วกว่า 10 ปีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆในเกาหลีใต้ต้องมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด นอกจากการประชาสัมพันธ์ทางการเมืองที่ทำได้ค่อนข้างยากลำบากมาตั้งแต่รัฐบาลสองชุดก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามข้อถกเถียงเกี่ยวกับการจัดระดับและกลั่นกรองเนื้อหาที่จะเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ของเกาหลีใต้ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเกาหลีเหนือ เพราะหลังม่านสีแดงของกรุงเปียงยางมีผู้คนไม่มากนักที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือก็เพิ่งจะเริ่มเปิดให้มีการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตได้เต็มที่เป็นครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้