'ไอเอ็มเอฟ' เตือนวิกฤตการเงินโลกอาจสกัดกั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ปรับลดคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2023 ลงเล็กน้อย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น พร้อมเตือนว่าปัญหารุนแรงในระบบการเงินโลกอาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงจนถึงระดับใกล้เคียงภาวะถดถอยได้

รายงานภาพรวมเศรษฐกิจโลกของไอเอ็มเอฟฉบับล่าสุดชี้ว่า ความเสี่ยงต่อระบบธนาคารทั่วโลกหลังเหตุการณ์ล้มครืนของธนาคารสองแห่งในสหรัฐฯ นั้นถูกจำกัดไว้ด้วยนโยบายการเงินที่เข้มแข็งและการควบรวมกิจการของธนาคารเครดิตสวิส แต่ก็ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเงินขึ้นนอกเหนือไปจากอัตราเงินเฟ้อสูงและผลกระทบจากสงครามในยูเครน

รายงานไอเอ็มเอฟชี้ว่า "ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงินโลกยิ่งทำให้หมอกที่ปกคลุมภาพรวมเศรษฐกิจโลกยิ่งหนาขึ้น" และ "ความไม่แน่นอนยังอยู่ในระดับสูงและความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้นตราบเท่าที่ภาคการเงินยังคงไร้เสถียรภาพ"

ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า มูลค่าผลผลิตมวลรวม หรือ จีดีพี ทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวที่ 2.8% และ 3.0% ในปีหน้า ซึ่งลดลงจากระดับ 3.4% เมื่อปีที่แล้ว และลดลงราว 0.1% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม สืบเนื่องจากความอ่อนแอของระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่บางประเทศ และการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ

สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ 1.6% ในปีนี้ เพิ่มจากระดับ 1.4% ตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อครั้งที่แล้ว ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นคาดว่าจะขยายตัว 1.3% ในปีนี้ ขณะที่เยอรมนีคาดว่าจะหดตัวลง 0.1%

ไอเอ็มเอฟประเมินด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 2023 จะอยู่ที่ระดับ 5.1% เพิ่มขึ้นจาก 4.5% ที่คาดไว้เมื่อเดือนมกราคม พร้อมแนะนำให้ประเทศต่าง ๆ มุ่งเน้นใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปเพื่อกดค่าเงินเฟ้อให้ต่ำลง

  • ที่มา: รอยเตอร์