ต่างชาติแสดงความกังวลถึงนโยบาย “เมดอินไชน่า 2025” ของรัฐบาลจีน อาจได้รับผลกระทบ หากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังไม่ได้ข้อสรุปภายใน 2 มีนาคมนี้
นโยบาย “เมดอินไชน่า 2025” ของรัฐบาลจีน มีเป้าหมายผลักดันให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำใน 10 ภาคส่วนสำคัญ อาทิ การพัฒนาหุ่นยนต์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบปัญญาประดิษฐ์ ในปี ค.ศ. 2025 หรืออีก 6 ปีข้างหน้านี้
FILE - A robot entertains visitors at the booth of a Chinese automaker during the China Auto 2018 show in Beijing, China, April 26, 2018. Under President Xi Jinping, a plan known as "Made in China 2025" aims to make the country a tech superpower.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางการจีนไม่ได้กล่าวถึงนโยบาย “เมดอินไชน่า 2025” และรัฐบาลปักกิ่งมีคำสั่งให้บริษัทจีนเลิกการบังคับบริษัทต่างชาติที่มีฐานอยู่ในประเทศจีน ส่งมอบองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับจีน
และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่นโยบาย “เมดอินไชน่า 2025” ไม่ได้รับการกล่าวถึงในแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลปักกิ่งในปีนี้
FILE - A woman stands at the booth of Huawei featuring 5G technology at the PT Expo in Beijing, China, Sept. 28, 2018.
ที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งของจีนมักทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากในสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี และเรียนรู้แผนการทำธุรกิจใหม่ๆ จากบริษัทอเมริกัน
แต่หลังจากสหรัฐฯเพิ่มความเข้มงวดด้านการลงทุนจากจีน และความสัมพันธ์ทางการค้าที่ไม่สู้ดีระหว่าง 2 ชาติ ได้ทำให้ตัวเลขการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ ลดต่ำสุดในรอบ 7 ปี ที่ 4,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึงร้อยละ 84 จากเดิมที่ 29,000 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2017 ตามข้อมูลของบริษัทวิจัย โรเดียม กรุ๊ป